เชื่อว่าคนไทยกว่าค่อนประเทศต้องเคยฟังเพลง
"สามสิบยังแจ๋ว" ของตำนานนักร้องเพลงลูกทุ่งผู้ล่วงลับ "ยอดรัก
สลักใจ" ที่จากพวกเราไปสู่สรวงสวรรค์แล้ว อย่างไรก็ดี "พี่แอ๊ด"
ได้ฝากผลงานเพลงสุดไพเราะเป็นมรดกตกทอดไว้ให้กับลูกหลานมากมาย โดยเฉพาะ "สามสิบยังแจ๋ว"
ที่กลายเป็นเพลงอมตะนิรันดร์กาลไปเป็นที่เรียบร้อย
หลายคนอาจจะงงว่า
นี่มันบทความเกี่ยวกับกีฬา แล้วมันไปเกี่ยวข้องอะไรกับ เพลง "สามสิบยังแจ๋ว"
สาเหตุก็เพราะนาย "ดาเนียล เอ็ดเวิร์ดส์" คอลัมนิสต์ของเว็บไซต์กีฬาดังแดนลุงแซม
"บลีเชอร์ รีพอร์ท" นั่นเอง ที่ได้ร่ายมนต์นิ้วเคาะคีย์บอร์ดเขียนบทความเกี่ยวกับนักฟุตบอลที่อายุขึ้นต้นด้วยเลขสามนำหน้า
แต่ผลงานในสนามยังคงยอดเยี่ยม เด็ดดวง ไม่แพ้ดาวเตะรุ่นอายุยี่สิบกว่า ๆ ทั้งหลายเอาไว้
เมื่อวันที่ 18
ก.ค. ที่ผ่านมา “เช พระราม5” เห็นว่าน่าสนใจ หลังอ่านจบก็เกิดแรงบันดาลใจในการบรรเลงข้อเขียนนี้
ในฐานะหัวอกคนวัยเลขสามนำหน้าระยะสุดท้าย
นอกจากนายดาเนียล
จะกล่าวถึงนักเตะฝีเท้าแหล่มผิดกับอายุแล้ว ช่วงท้ายบทความ เขายังได้จัด "ทีมยอดเยี่ยมแข้งอายุสามสิบยังแจ๋ว"
ไว้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า "เช พระราม5" ไม่ยอมน้อยหน้า จึงขอจัดทีมมาดวลกับนายดาเนียล
ดูสิว่าของใครจะแจ่มกว่ากัน…. โดยเราจะจัดทีมมาสู้กันในช่วงท้ายของบทความนี้
ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ
เคยมีคำกล่าวเชิงสอนชีวิตในแวดวงธุรกิจที่ว่า
"ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุสี่สิบ"
ซึ่งถือเป็นวลีเด็ดเอาไว้ย้อมใจมนุษย์วัยกลางคนทั้งหลาย ไม่ให้ท้อถอย
เพราะเศรษฐีส่วนใหญ่มักประสบความสำเร็จร่ำรวยเมื่ออายุขึ้นต้นด้วยเลขสี่ไปแล้ว
ทว่า สำหรับในวงการนักฟุตบอลอาชีพ เมื่อวัยล่วงเลยเข้าสู่เลขสามนำหน้า
ถือเป็นการนับถอยหลังไปสู่การแขวนสตั๊ด หรือการรีไทร์
เพื่อผันตัวไปหาอาชีพอื่นเลี้ยงปากเลี้ยงท้องต่อไป อย่างไรก็ตาม วันนี้นายดาเนียล
ได้รวบรวมสุดยอดนักเตะที่อายุนำหน้าด้วยเลขสาม
แต่ยังคงเป็นแข้งระดับชั้นนำของโลกมาฝากกัน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้เล่นสูงวัยทั้งหลายได้ฮึดสู้ต่อ
เพราะ "ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ" อย่างที่ "ตูน
บอดี้สแลม" ได้ร้องเอาไว้ และขอให้ลืมอีกหนึ่งวลีเด็ดของ "ตูน"
ที่ว่า "คนเราจะมีพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน"
เก็บใส่ลิ้นชักเอาไว้ก่อน
“มิลลา” ตำนานแข้งสี่สิบยังแจ๋ว
แน่นอนว่า
เป็นเรื่องยากมากถึงมากที่สุด ในการหานักเตะที่อายุขึ้นต้นด้วยเลขสี่
แต่ยังคงเปล่งประกายโดดเด่นในฟุตบอลระดับสูง และถ้าหามาได้
ก็คงไม่พ้นตำแหน่งผู้รักษาประตูอย่างแน่นอน เพราะเป็นตำแหน่งที่ไม่ต้องวิ่งปุเลง ๆ
จนลิ้นห้อยไปทั่วสนาม และชื่อที่โดดเด่นสุด ๆ ก็คงหนีไม่พ้น "ปีเตอร์
ชิลตัน" ตำนานนายทวารแดนผู้ดี ที่เคยไปลุยศึกฟุตบอลโลก 1990 ในวัย 40 ปี
292 วัน
นอกเหนือจาก
ชิลตัน ในเวิลด์คัพหนนั้น หากใครได้ดู ต้องจดจำชายที่มีนามว่า "โรเจอร์
มิลลา" กองหน้าทีมชาติแคเมอรูนได้ ในวัย 38 ปี มิลลา สร้างชื่อกระฉ่อนโลก
ด้วยการยิง 2 ประตูในเกมรอบแบ่งกลุ่มรอบแรกที่ แคเมอรูน ชนะ โรมาเนีย 2-1
และยิงอีก 2 ประตู ในรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่ง แคเมอรูน ต่อเวลาพิเศษชนะ
โคลอมเบีย 2-1 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ พา "หมอผี" ผ่านเข้าถึงรอบ 8
ทีมสุดท้ายได้เป็นชาติแรกที่มาจากทวีปแอฟริกา แม้จะแพ้ อังกฤษ 2-3 กระเด็นตกรอบ
แต่ผลงานของ แคเมอรูน ชนะใจแฟนบอลทั่วโลก รวมผลงานในฟุตบอลโลก 1990 มิลลา ยิงไป 4
ประตู เรียกว่า มาดังเอาตอนแก่นี่เอง
ยังไม่หมดแค่นี้
สำหรับเรื่องเล่าที่นายมิลลาสร้างเอาไว้ให้ลูกหลานได้ฟังสืบทอดต่อ ๆ กันไป
เพราะในฟุตบอลโลก 1994 มิลลา ยังคงติดทีมชาติแคเมอรูน ไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้ง
พร้อมยิงได้ 1 ประตูในเกมพบกับ รัสเซีย ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก ทำให้เขาสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุมากสุดที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
คือ ในวัย 42 ปี ซึ่งสถิติของเขาก็ยังคงจีรังยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน
และคาดว่าอีกนานกว่าจะมีใครมาทุบสถิตินี้ของแกได้ ทำให้ “โรเจอร์ มิลลา” ถือเป็นแข้งวัยสี่สิบยังแจ๋วตัวจริงเสียงจริงที่ร้อยปีจะมีสักคนหนึ่ง
สำหรับดาวเตะที่ไม่ใช่ตำแหน่งผู้รักษาประตู
สามสิบยังแจ๋วมาเต็ม
ออกนอกลู่นอกทางไปไกล
แล้วก็ได้เวลาที่เราจะตีวงกลับเข้าสู่เรื่องราวในวันนี้ ก็คือ
นักเตะสามสิบยังแจ๋วทั้งหลาย
ผู้รักษาประตู
- ในตำแหน่งนี้ คนที่เคยสร้างชื่อในวัยเกินเลขสองนำหน้า ได้แก่ “เรเน
ฮิกิตา” นายทวารจอมลีลาชาวโคลอมเบีย ที่ชอบออกมานอกกรอบเขตโทษ
เลี้ยงบอลหลบกองหน้าทีมฝั่งตรงข้าม
บางครั้งขึ้นมาต่อบอลกับเพื่อนถึงครึ่งสนามก็เคยทำมาแล้ว
แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาสุด ๆ ก็คือ ลีลาการเซฟประตูในท่าแมงป่องในนัดเตะกับ อังกฤษ
แต่สำหรับวงการลูกหนังยุคนี้
โกลที่อายุเกิน 30 แต่ฝีไม้ลายมือการเซฟประตูยังอยู่ในระดับโลก ต้องยกให้กับ "จิอันลุยจิ
บุฟฟอน" โกลทีมชาติอิตาลี ที่ตอนนี้อายุ 35 ปีเข้าให้แล้ว
แต่ยังเหนียวหนึบเป็นปลาหมึก รวมทั้ง "อิเคร์ กาซิยาส" โกลมือหนึ่งทีมชาติสเปน
วัย 32 ปี และ "โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์" โกลชาวเยอรมัน
ที่ได้ลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ในฤดูกาลล่าสุดที่ผ่านมา กับ
ดอร์ตมุนด์ ในวัย 32 ปี
ขณะที่
"โรเจริโอ เซนี" โกลจอมสังหารจุดโทษแดนแซมบ้า แม้วัยจะปาเข้าไป 40
ปีแล้ว แต่เขายังคงโลดแล่นในอาชีพค้าแข้งต่อไปกับ เซา เปาโล โดย เซนี
ลงเฝ้าเสาไปแล้ว 1,077 นัด ยิงได้ถึง 111 ประตู จากลูกจุดโทษและการสังหารฟรีคิก ไม่ธรรมดาจริง
ๆ โกลคนนี้ จะใช้คำว่า “ปรากฏการณ์” กับเขาก็คงไม่มีใครมาค้านแน่ ๆ
กองหลัง - ตำแหน่งนี้หากคุณอายุเกินสามสิบ
ประสบการณ์และการอ่านทางที่ดียังคงช่วยให้คุณเล่นในระดับสูงได้ ทว่า ปัญหาก็คือ
ความเชื่องช้าของคุณ จะเป็นจุดอ่อนให้แนวรุกคู่ต่อสู้ที่ส่วนใหญ่จะเร็วปานจรวดเล่นงานจนหัวหมุน
สำหรับกองหลังที่เกิน 30 แต่ฝีเท้ายังแจ่มไม่แพ้เด็ก ได้แก่ “ดานี อัลเวส”
แบ๊กขวาจอมบุกทีมชาติบราซิลของบาร์เซโลนา, “แอชลีย์ โคล” แบ๊กซ้ายวัย 32 ปีของเชลซี
ที่แม้อายุจะมากแล้ว แต่ยังคงมีความเร็วไม่แพ้รุ่นน้องทั้งหลาย
ในส่วนของ
“ฮาเวียร์ ซาเนตติ” คนนี้นี่เด็ดดวงจริง ๆ อายุปาเข้าไป 39 ปีแล้ว
แต่ยังเล่นได้ทั้งแบ๊กและกองกลาง ซาเนตติ เป็นผู้เล่นที่รักษาสภาพร่างกายได้ดีจริง
ๆ ต้นเดือนสิงหาคมนี้ เขาจะอายุครบ 40 ปีแล้ว แต่ยังดูฟิตกว่ารุ่นน้องบางคน อาทิ
แอนดี คาร์โรลล์ ดาวยิงร่างยักษ์ชาวอังกฤษ เป็นต้น
ผู้เล่นคนอื่น
ๆ ที่ยังคุมแนวรับได้อย่างโดดเด่น แม้วัยเข้าเลขสาม ได้แก่ เนมานยา วิดิช, จอห์น
เทอร์รี, อันเดรีย บาร์ซาญี, ดีเอโก
ลูกาโน, มาริโอ เยเปส และ ดาเนียล ฟาน บุยเตน
กองกลาง – “อันเดรีย ปิร์โล, ชาบี
เอร์นานเดซ, สตีเวน เจอร์ราร์ด และ แฟรงค์ แลมพาร์ด” น่าจะเป็นชื่อลำดับต้น ๆ
ที่แฟนบอลนึกถึง สำหรับมิดฟิลด์อายุขึ้นต้นด้วยเลขสาม ที่ฟอร์มยังไฉไลอยู่
ในส่วนของ
“ฮวน โรมัน ริเกลเม, ชาบี อลอนโซ, กากา, ฟรองค์
ริเบรี และไรอัน กิกส์” ล้วนแล้วแต่เป็นนักเตะที่รสชาติกลมกล่อมด้วยกันทั้งสิ้น
เรียกว่า ยิ่งแก่ก็ยิ่งเก๋า กุนซือแทบทุกทีมล้วนอยากมีไว้ในการครอบครองสักหนึ่งคน
เอาไว้คอยประคองน้อง ๆ
กองหน้า
- ตำแหน่งนี้สำหรับลูกหนังยุคปัจจุบัน
ถือว่ายังมีแข้งเด็ด ๆ อีกหลายรายที่วัยเข้าเลขสามแต่ยังถล่มประตูเป็นว่าเล่น
ไม่ว่าจะเป็น “ซลาตัน อิบราฮิโมวิช” ดาวยิงชาวสวีดิชของเปแอสเช, “อันโตนิโอ
ดิ นาตาเล”
ศูนย์หน้าร่างเล็กแต่ยิงประตูคมกริบของอูดิเนเซ, “ดาบิด บีญา” กองหน้าทีมชาติสเปน, “มิโรสลาฟ
โคลเซ” กองหน้าทีมชาติเยอรมนี, “ดีเอโก
ฟอร์ลัน” กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย, “ดิดิเยร์
ดร็อกบา” ดาวยิงจอมแกร่งชาวไอวอรี โคสต์, “นิโกลาส์
อเนลกา” ดาวยิงชาวฝรั่งเศส และ “ฟรานเชสโก
ตอตติ” เจ้าชายหมาป่าแห่งกรุงโรม ที่อายุปาเข้าไป 36 ปีแล้ว
แต่ยังคงเป็นแข้งตัวหลักของโรมา
ทีมยอดเยี่ยมโลก30ยังแจ๋ว
อย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นบทความว่า
ตอนท้าย "เช พระราม5" จะขอจัดทีมแข่งกับ "นายดาเนียล"
ไปลุยดูกันเลยว่า มีใครกันบ้าง?
ดาเนียล เอ็ดเวิร์ดส์ – (4-3-3) จิอันลุยจิ บุฟฟอน, ดานี อัลเวส, เนมานยา
วิดิช, ดาเนียล ฟาน บุยเตน, แอชลีย์
โคล, ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรีย ปิร์โล, ฟรองค์
ริเบรี, ดีเอโก ฟอร์ลัน, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ฟรานเชสโก
ตอตติ
เช พระราม5 - (3-5-2) ปีเตอร์ เช็ก, ริโอ เฟอร์ดินานท์, จอห์น
เทอร์รี, อันเดรีย บาร์ซาญี, ฮาเวียร์
ซาเนตติ, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี
อลอนโซ, ไรอัน กิกส์, กากา, เธียร์รี อองรี, ดิดิเยร์
ดร็อกบา
ทั้งนี้ ผู้อ่านสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นว่า
ทีมไหนเจ๋งกว่ากัน หรือจะจัดทีมของท่านขึ้นมาดวลกับเรา รวมทั้งช่วยกันนึกชื่อนักเตะที่อายุขึ้นเลขสามแต่ฟอร์มยังแจ๋วอยู่
มาแบ่งปัน นำเสนอ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ ที่อีเมล chepharam5@hotmail.com และเฟซบุ๊ก http://www.facebook.com/Chepharam5 ครับผม
เช พระราม5
===========================================
แค่คลิกไลค์ก็ได้เงินที่ http://www.fanslave.net/ref.php?ref=723823
===========================================
แค่คลิกไลค์ก็ได้เงินที่ http://www.fanslave.net/ref.php?ref=723823




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น