แม้ตลาดซื้อขายนักเตะในลีกยุโรป
จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ก.ค. นี้
แต่เหล่าสโมสรฟุตบอลทั้งหลายไม่ได้รีรอเวลา
เดินเกมไล่ล่าแข้งใหม่เข้ามาเสริมทัพทันที ตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 ปิดฉากลง จนล่าสุดถึงวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา
สโมสรที่ร้อนแรงสุดในการช้อปปิ้งนักเตะเข้ามาเสริมทัพ คงต้องยกให้ "หงส์แดง"
ลิเวอร์พูล เป็นเบอร์หนึ่ง เนื่องจากคว้า 4
แข้งใหม่มาร่วมโม่แข้งในรังแอนฟิลด์ได้เป็นที่เรียบร้อย
ไล่ไปตั้งแต่
โคโล ตูเร ปราการหลังชาวไอวอรี โคสต์ ที่คว้าตัวมาแบบฟรี ๆ หลังหมดสัญญากับ
"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี, หลุยส์ อัลแบร์โต มิดฟิลด์ตัวรุกดาวโรจน์ชาวสแปนิชจากเซบีญา
ด้วยค่าตัว 6.7
ล้านปอนด์, ยาโก
อัสปาส
กองหน้าแดนกระทิงดุจากเซลตา บีโก ในราคา 7.7 ล้านปอนด์ และผู้เล่นคนล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป
ได้แก่ ซิมง มิโญเลต์ โกลทีมชาติเบลเยียม
ที่ทุ่มเงิน 10
ล้านปอนด์ ดึงตัวจาก "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ มาเฝ้าเสา
และวันนี้ "เช พระราม5" ได้นำบทสัมภาษณ์แรกของนักเตะชาวเบลเยียมคนแรกที่เซ็นสัญญาร่วมทัพ
"หงส์แดง" มาฝากกัน
โดย
มิโญเลต์ ทราบดีว่า การย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เขาต้องเจองานหนักในการแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ
เปเป เรนา โกลจอมหนึบทีมชาติสเปน และ แบรด โจนส์ โกลแดนจิงโจ้
แต่นายทวารวัย 25
ปี ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เนื่องจากเขาเปิดเผยว่า
ตลอดอาชีพค้าแข้งต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งมาโดยตลอดอยู่แล้ว
“การแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริง ถือเป็นเรื่องที่ดี
คุณต้องฝึกซ้อมให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อดึงศักยภาพของตัวเองออกมา
ผมเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ทั้งในทีมชาติเบลเยียม
และที่ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งมีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง เคร็ก กอร์ดอน กับ เคียแรน
เวสต์วูด แต่สำหรับตอนนี้ ผมต้องเผชิญหน้ากับ เปเป และแบรด
ในการแย่งชิงมือหนึ่งมาครอง เปเป เป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม
เขาพิสูจน์ฝีมือให้เห็นมาปีแล้วปีเล่า ผมแทบรอคอยที่จะได้ร่วมงานกับเขาไม่ไหวแล้ว
เช่นเดียวกันกับ แบรด และโค้ชผู้รักษาประตูของทีม นี่ถือเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ในอาชีพของผม
แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องเจออยู่แล้ว หากคุณอยู่ในสโมสรชั้นนำ
ซึ่งต้องลงเล่นภายใต้ความกดดัน ผมมั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ดี
ผมรอที่จะลงเล่นเพื่อเก็บคลีนชีตนัดแรกให้ได้"
ในฐานะที่กลายเป็นแข้งประวัติศาสตร์ของสโมสร
เพราะเป็นชาวเบลเยียมคนแรกที่ได้สวมยูนิฟอร์มของลิเวอร์พูล มิโญเลต์
กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า
"ผมรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะมีนักเตะเบลเยียมมากมายเหลือเกินที่ลงเตะในพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตาม นั่นทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจมาก ๆ กับการได้เป็นชาวเบลเยียมคนแรกที่ได้เล่นให้สโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง
ลิเวอร์พูล ผมมีความสุขมากจริง ๆ"
ส่วนประเด็นที่เขาจะสามารถปรับตัวกับระบบการเล่นของ
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ที่ผู้รักษาประตูจะต้องรับบทบาทเป็น "สวีปเปอร์
คีปเปอร์" ซึ่งจำเป็นต้องมีทักษะสูงในการใช้เท้าเล่นลูกฟุตบอลนั้น มิโญเลต์
เปิดเผยว่า
"สมัยที่ผมยังค้าแข้งอยู่ในเบลเยียม
ผู้รักษาประตูจะต้องซ้อมด้วยการใช้เท้าคอนโทรลลูกฟุตบอลอยู่เป็นประจำ
ผมฝึกซ้อมแบบนั้นเป็นระยะเวลานาน
และซ้อมใช้เท้าในการเล่นฟุตบอลมากกว่าใช้มือด้วยซ้ำ ทำให้ผมไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
เพราะผมคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี ผมได้คุยกับ ร็อดเจอร์ส ก่อนย้ายมาที่นี่ 1-2 ครั้ง และผมบอกเขาว่า
ผมไม่มีปัญหากับการเล่นลูกฟุตบอลด้วยเท้า การพูดคุยกับเขา ทำให้ผมรู้สึกพึงพอใจมาก
เพราะเขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานเหมือนเช่นที่ผมมี
หวังว่าเราจะช่วยกันพาทีมคว้าชัยชนะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
และจบอันดับสูงที่สุดเท่าที่เราควรจะทำได้"
กับการต้องลงเล่นในสนามแอนฟิลด์
ซึ่งมีบรรยากาศอันชวนขนลุกเสมอ เพราะเสียงเชียร์อันดังสนั่นของเหล่า "เดอะ
ค็อป" รวมทั้งมีวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลที่น่าทึ่ง
โกลที่ติดทีมชาติเบลเยียมไปแล้ว 13 ครั้ง เปิดใจว่า
"ผมประทับใจกับวัฒนธรรมการเชียร์ของแฟนบอลที่แอนฟิลด์สุด
ๆ แม้คุณจะเป็นผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่พวกเขาก็จะปรบมือให้คุณ
หวังว่าพวกเขาจะให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดีในฐานะผู้รักษาประตูของทีม
ผมรอคอยแทบไม่ไหวแล้ว ที่จะได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอล และหวังว่าจะช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะต่อหน้าพวกเขาให้ได้มากที่สุด
ผมมั่นใจว่า ตอนที่ได้ก้าวลงไปเล่นในสนามแอนฟิลด์
นั่นจะเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่ยากจะลืมเลือน และผมคงจะตื่นเต้นสุด ๆ
แต่ผมเชื่อว่าแฟนบอลจะคอยสนับสนุนผม เพื่อช่วยให้ผมผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดี
ผมหวังว่าจะไม่เสียประตู ช่วยทีมเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด รวมทั้งคาดหวังว่าแฟน ๆ
จะหนุนหลังผม เพื่อให้เราร่วมคว้าชัยไปด้วยกัน
และคว้าถ้วยรางวัลมาครองให้ได้มากที่สุด"
เช พระราม5

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น