วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทสรุปพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2012-13

                "เดอะ การ์เดียน" สื่อดังแดนผู้ดี ได้รวบรวมเหล่าคอลัมนิสต์และนักข่าวประจำโต๊ะกีฬา ไม่ว่าจะเป็น พอล ดอยล์, โดมินิค ฟิฟิลด์, โอเวน กิบสัน, แบร์รี เกล็นเด็นนิง, แอนดี ฮันเตอร์, เดวิด ไฮต์เนอร์, เจมี แจ็คสัน, สจ๊วร์ต เจมส์, สกอตต์ เมอร์เรย์, ซาคฮิน นัครานี, เจมส์ เรียช, บาร์นีย์ โรเนย์, จาค็อบ สตีนเบิร์ก, ดาเนียล เทย์เลอร์, หลุยส์ เทย์เลอร์ และ พอล วิลสัน มาพูดคุยกันถึง "บทสรุปของศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2012-13" ในคอลัมน์ "ทอล์คกิ้งสปอร์ต" ซึ่งเหล่าทีมงานผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอลอังกฤษ ต่างร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างถึงพริกถึงขิงตรงไปตรงมาในหลาย ๆ ประเด็น ด้วยการลงคะแนนเสียงคัดเลือก "ผู้เล่นยอดเยี่ยม", "ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม", "ประตูยอดเยี่ยม", "แมตช์ยอดเยี่ยม", "การเซ็นสัญญาซื้อนักเตะใหม่ยอดเยี่ยม" และ "นักเตะฟอร์มย่ำแย่" ฯ ประจำซีซั่น ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
                เราไปลุยดูกันเลยว่า เหล่าขุนพลผู้สื่อข่าวกีฬาฟุตบอลประจำสำนักพิมพ์ "เดอะ การ์เดียน" ลงคะแนนเสียงออกมาเป็นเช่นไรบ้าง?

                เริ่มต้นกันที่......
                "ผู้เล่นยอดเยี่ยม" - แกเรธ เบล
                เป็นไปตามความคาดหมายและกระแสนิยม หลัง เบล ฟาดไปคนเดียว 3 รางวัลใหญ่ สำหรับผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้ ซึ่งเหล่าคนข่าว "เดอะ การ์เดียน" ส่วนใหญ่ต่างก็เทคะแนนให้กับสตาร์ความเร็วจัดชาวเวลส์แบบท่วมท้น หนึ่งในความเห็นที่น่าสนใจที่สุดเป็นของ โอเวน กิบสัน ที่ได้กล่าวยกย่อง เบล ว่า หลังจาก คริสเตียโน โรนัลโด ย้ายหนีอังกฤษไปอยู่สเปน พรีเมียร์ลีก ก็ขาดสีสันไปมาก จนกระทั่งฤดูกาลนี้ที่ เบล ได้ก้าวขึ้นมาขีดเขียนสีสันสุดจัดจ้านให้กับลีกลูกหนังผู้ดีอีกครั้ง
                นอกเหนือจาก เบล มีอีกหลายแข้งที่ได้รับการเสนอชื่อ โดย พอล ดอลย์ กับ พอล วิลสัน พร้อมใจกันเลือก "หลุยส์ ซัวเรซ" ด้วยเหตุผลที่ว่า ทั้งคู่รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งยามได้ยลแข้งรายนี้ร่ายมนต์ในสนามหญ้าสีเขียวขจี รวมทั้งการผลิตสกอร์ที่มีคลาสอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีความมุ่งมั่นและหิวกระหายตลอดทุกวินาทียามอยู่ในสนาม, โดมินิค ฟิฟิลด์ เลือก "ฆวน มาตา" เพราะผลงาน 12 ประตู 12 แอสซิสต์, แอนดี ฮันเตอร์ เลือก "โรบิน ฟาน เพอร์ซี" พร้อมชี้ว่า นี่คือการเซ็นสัญญาที่ส่งผลให้ผีแดงคว้าแชมป์ลีกสมัย 20 ไปครอบครอง, เดวิด ไฮต์เนอร์ กับ ซาคฮิน นัครานี มาแปลกสุด เลือก "ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ" สงสัยชอบนักบอลอารมณ์ศิลปิน, บาร์นีย์ โรเนย์ จิ้ม "ไมเคิล คาร์ริค" เพราะคุมเกมแดนกลางให้ผีแดงได้อยู่หมัดในฤดูกาลนี้, หลุยส์ เทย์เลอร์ คนนี้สงสัยจะชอบเด็กและชอบใหม่ จึงเลือก “ฟิลิปป์ คูตินโญ” ทั้ง ๆ ที่เพิ่งย้ายมาตอนต้นปี

"ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม" - ไมเคิล เลาดรูป
                ค่อนข้างเซอร์ไพร้ส์สำหรับบทสรุปในหัวข้อนี้ แต่เสียงส่วนใหญ่เลือกกุนซือแดนโคนมจากผลงานพา "หงส์ขาว" คว้าแชมป์ลีกคัพไปครอง รวมทั้งมีรูปแบบการเล่นที่งดงาม พลิ้วไหว ไม่แพ้สมัย เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คุมทัพ
                กุนซือรายอื่น ๆ ที่ถูกเลือกมีดังนี้ ฟิฟิลด์ กับ วิลสัน ยกให้ "เดวิด มอยส์" เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม จากผลงานพา เอฟเวอร์ตัน มีอันดับเหนือ ลิเวอร์พูล 2 ฤดูกาลติดต่อกัน แถมคุณภาพของผู้เล่นโดยรวมก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย ทว่า กลับคว้าอันดับ 6 มาครองได้อย่างยอดเยี่ยม, ฮันเตอร์ เลือก "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" จากการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20, เดวิด ไฮต์เนอร์-สกอตต์ เมอร์เรย์-บาร์นีย์ โรเนย์ เลือก "ราฟาเอล เบนิเตซ" ที่ทนพิษบาดแผลจากเสียงโห่ของแฟนบอลในสแตมฟอร์ด บริดจ์ จนนำ เชลซี คว้าถ้วยยูโรป้า ลีก มาครองได้สำเร็จ, ดาเนียล เทย์เลอร์ มาแปลก เลือก "สตีฟ คลาร์ก" โดยให้เหตุผลชักแม่น้ำทั้งห้าว่า ซีซั่นก่อนถูก ลิเวอร์พูล ไล่ออกในฐานะผู้ช่วยกุนซือ ก่อนหันมาจับงานกุนซือใหญ่เต็มตัวฤดูกาลแรก และผลงานของ เวสต์บรอมวิช ก็น่าทึ่ง ไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น, หลุยส์ เทย์เลอร์ คนนี้ทำตัวเป็นเด็กแนวตัวจริงเสียงจริง แข้งยอดเยี่ยมจิ้ม คูตินโญ มาถึงกุนซือยอดเยี่ยม แกเลือกจิ้ม "เปาโล ดิ คานิโอ" จากผลงานช่วยให้แมวดำรอดตกชั้น
"ประตูยอดเยี่ยม" – โรบิน ฟาน เพอร์ซี (ประตูนำ 2-0 ในแมตช์ที่ 34 แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ แอสตัน วิลลา 3-0)
ลูกยิงวอลเลย์สุดสวยของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่ เวย์น รูนีย์ ถวายพานมาให้ ในเกมนัดที่ 34 ของฤดูกาล ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่อัด แอสตัน วิลลา 3-0 ขณะที่ดาวยิงชาวดัตช์ทำแฮตทริกได้ด้วย และการเก็บ 3 แต้มเต็มในนัดดังกล่าว ส่งผลให้ผีแดงคว้าแชมป์ลีกสมัย 20 ไปครองตั้งแต่หัววัน
                ประตูอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งได้รับเลือก ดอยล์ เลือกประตูของ "โฮเซ เอ็นริเก" ในเกมที่ ลิเวอร์พูล ชนะ สวอนซี 5-0 เนื่องจากเป็นการต่อบอลเข้าทำที่งดงามสุด ๆ ของเหล่าแข้งหงส์แดง, โดมินิค ฟิฟิลด์-สจ๊วร์ต เจมส์-ซาคฮิน นัครานี เลือกลูกยิงวอลเลย์ของ "แมทธิว ลอว์ตัน" ในเกมที่ วิลลา บุกพิชิต สโตค 3-1, แบร์รี เกล็นเด็นนิง-เดวิด ไฮต์เนอร์-ดาเนียล เทย์เลอร์ เลือกประตูของ "หลุยส์ ซัวเรซ" ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดรังเสมอ นิวคาสเซิล 1-1 เพราะเป็นประตูที่แสดงให้เห็นถึงทักษะฝีเท้าระดับโลกอย่างแท้จริง
"แมตช์ยอดเยี่ยม" - แมนฯ ซิตี 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
                นี่ถือเป็นหนึ่งในคีย์แมตช์สำคัญที่ทำให้ "ผีแดง" คว้าแชมป์ลีกฤดูกาลนี้มาครอง การพลาดท่าปราชัยต่อทีมคู่อริร่วมเมืองและคู่แข่งแย่งแชมป์คารัง ส่งผลให้แข้ง "เรือใบสีฟ้า" ถูกบดขยี้ความมั่นใจจนหมดสิ้น เกมนัดนี้ถือเป็นหนึ่งในแมตช์สุดเร้าใจประจำฤดูกาล แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้เยี่ยมขึ้นนำห่าง 2-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก และทำท่าว่าจะคว้าชัยไปได้ง่าย ๆ ทว่า แมนฯ ซิตี ไม่ยอมแพ้ ยิง 2 ประตูในครึ่งหลังไล่ตามเจ๊า โดยเฉพาะ ลูกตีเสมอเกิดขึ้นในนาที 84 จนดูเหมือนว่าทั้งสองทีมต้องแบ่งแต้มกันไป ทว่า ช่วงทดเจ็บ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ซัดฟรีคิกเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้ "ผีแดง" บุกมาชนะ 3-2 พร้อมขยับช่องว่างทิ้งห่าง "เรือใบสีฟ้า" เป็น 6 คะแนน และหลังจากนั้น ผีแดงก็เร่งเครื่องนำโด่งเข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครอง
"การซื้อนักเตะใหม่ยอดเยี่ยม" - มิชู (สวอนซี)
                ก่อนเริ่มเขี่ยลูกฟาดแข้งฤดูกาล 2012-13 แฟนบอลส่วนใหญ่จากทั่วโลกแทบจะไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของ มิชู ยกเว้นขาบอลสเปน ด้วยค่าตัวสุดถูกเพียง 2.2 ล้านปอนด์ที่ ไมเคิล เลาดรูป เบิกคลัง "หงส์ขาว" จ่ายให้ ราโย บาเยกาโน กับผลงานสุดเอกอุ ซัดคนเดียว 18 ประตู พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ คงไม่มีการซื้อตัวครั้งไหนจะคุ้มค่าเท่าครั้งนี้อีกแล้ว
"นักเตะฟอร์มย่ำแย่" - คริสโตเฟอร์ แซมบา กับ โฮเซ โบซิงวา
                คงไม่มีผู้เล่นคนไหนอยากได้รับการเสนอชื่อในหมวดนี้อย่างแน่นอน แต่ผลปรากฏว่า กลับมีนักเตะถึง 2 รายที่ได้รับการโหวตด้วยคะแนนเสียงเท่าเทียมกัน ซึ่งก็คือ "แซมบา-โบซิงวา"
                สำหรับฤดูกาล 2012-13 ไม่มีใครน่าสงสารไปกว่า โทนี เฟอร์นานเดส ประธานสโมสร "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส อีกแล้ว มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวมาเลเซียน แสดงให้แฟนบอลคิวพีอาร์ได้เห็นว่า เขามีความตั้งใจจริงที่จะพาทีมประสบความสำเร็จ ด้วยการมอบเงินก้อนโตให้เหล่ากุนซือที่เลือกมาคุมทัพ ใช้จ่ายชนิดสุดแต่ใจจะปรารถนา แต่เม็ดเงินของเขาไม่สามารถช่วยให้ทีมรอดตกชั้นได้
                ด้วยค่าตัว 12.5 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อยระดับแสนปอนด์อัพ สำหรับชายร่างยักษ์ที่มีชื่อว่า คริส แซมบา ซึ่ง แฮร์รี เรดแนปป์ หวังจะนำมาอุดรอยรั่วในแนวรับคิวพีอาร์ ทว่า ผลงานของ แซมบา ย่ำแย่จนเกินจะให้อภัย เช่นเดียวกับ โบซิงวา แม้จะได้ตัวมาฟรี แต่เขาโชว์ฟอร์มไม่คุ้มค่าเหนื่อยสุดแพงเลย แถมยังอารมณ์ดีฉีกยิ้มกว้างหลังแมตช์ที่ทีมต้องกระเด็นตกชั้น โดยไม่มีอาการสลดเศร้าโศกเสียใจแต่อย่างใด
                นอกเหนือจากเรื่องราวต่าง ๆ ที่ "เช พระราม5" ได้ถอดความให้แฟน ๆ อ่านกันไป ยังมีเนื้อหาอีกมากมายจากบทความนี้ ใครอยากอ่านบทความนี้ทั้งหมดชนิดครบถ้วนกระบวนความ สามารถไปลุยอ่านกันได้เลยที่ http://www.guardian.co.uk/football/blog/2013/may/20/premier-league-review-football-writers ครับผม
“เช พระราม5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น